상세 컨텐츠

본문 제목

문(門) ร่วมเปิดประตูบานใหม่ไปกับอัลบั้มเต็มชุดแรกของคิมเซจอง

The Lyrics

by CLOVERIE IRIS 2023. 8. 30. 14:41

본문

11 บทเพลงในอัลบั้มเต็มชุดแรกจากคิมเซจอง พาเซซังเปิดประตูสู่โลกใบใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อนผ่านบทเพลงหลากหลายแนว ซึ่งเซจองได้แสดงความสามารถในการแต่งเนื้อร้องเองเพียงคนเดียวในทุกเพลง และมีส่วนร่วมแต่งทำนองถึง 9 เพลงอีกด้วย เรียกว่าเป็นอัลบั้มที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ สมกับการรอคอยของแฟนเพลงที่เฝ้ารอการกลับมาของคิมเซจองในฐานะนักร้องในรอบ 2 ปี 5 เดือนแน่นอน

 

KIM SEJEONG 1st Album: 문(門) (2023) Introduction


ฉันมายืนอยู่หน้าประตูบานนี้ที่คุ้นเคยแต่ก็แปลกใหม่อีกครั้งหนึ่ง
เป็นความรู้สึกที่คิดถึงและโหยหามาตลอด แต่ก็ยังคงกังวลและกลัวอยู่เสมอ

เมื่อประตูบานนี้เปิดออกอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้เปิดมานาน
โลกแบบไหนกันนะที่จะต้อนรับฉัน
ฉันจะกระโดดข้ามประตูบานนี้ไปด้วยภาพลักษณ์แบบไหนดี
ทุกคนจะไม่รู้สึกแปลกหรือตกใจกันหรือ
หากได้เห็นโลกของฉันที่อยู่ข้างใน (ด้านหลัง) ประตู
การเดินทางข้ามประตูนั้นยิ่งเวลาผ่านไป
ความตื่นเต้นก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น
ฉันจะผิดหวังหรือเจ็บปวดในการเดินทางข้ามประตูบานนี้หรือเปล่านะ

หากเอาแต่กังวลว่าแบบนี้จะเป็นอย่างไร แบบนั้นจะเป็นอย่างไร
ไม่ได้เผชิญกับโลกที่อยู่ข้างในบานประตู และไม่ได้ออกเดินทางไปข้างนอกด้วยตัวตนที่ฉันเป็น
ตลอดชีวิตก็คงไม่มีทางหาคำตอบได้

ลองเผชิญหน้ากันสักตั้ง
ก้าวออกจากประตูบานนี้กันเถอะ
ตัวฉันที่ซ่อนอยู่หลังบานประตูนั่น
หากทำแบบนี้แล้ว
ฉันก็คงได้พบกับประตูบานใหม่อีกครั้งนั่นแหละ

 
1. 항해 (Voyage) [*Title - Pre Release]


ฉันที่เคยว่ายน้ำด้วยตีนกบ*อย่างเงียบ ๆ
กลายมาเป็นนักเดินเรือคอยถือหางเสือไว้โดยไม่รู้ตัว
ชีวิตในทะเลที่คิดว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากมาย ก็ยังคงดุเดือด
ก็ยังเป็นเช่นเดิม
ฉันเรียนรู้วิธีที่จะรอคอยจังหวะของคลื่น และเคลื่อนไปข้างหน้าตามแรงพัดพาของคลื่นนั้น
และทันทีที่ฉันคิดว่าฉันเรียนรู้แล้ว ท้องทะเลจะกลืนฉันกลับลงไปอีกครั้ง

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ก็ไม่เป็นไร
ตราบเท่าที่ท้องทะเลไม่ได้พรากลมหายใจของฉันไป
ฉันก็จะรอคอยจังหวะให้พอเหมาะพอดี แล้วค่อยกระโดดออกไปเหมือนอย่างตอนนี้
คลื่นทะเลนั้นก็คงจะเต็มไปด้วยความน่าสะพรึงกลัวตลอดกาล
ฉันที่อดทนฟันฝ่ามันไปได้ก็คงจะมีพัฒนาการขึ้นอีกนิดมากกว่าในตอนนี้
ในสักวัน ฉันคงได้เรียนรู้บางอย่างจากท้องทะเล
แล้วท้องทะเลจะบอกอะไรกับตัวฉันในตอนนี้กันนะ

(*เซจองหมายถึงเพลง Swim Away (오리발) ในอัลบั้ม Plant ที่แปลตรงตัวว่าตีนเป็ด แต่ภาษาไทยเรียกตีนกบ)

2. If We Do

อารมณ์และความรู้สึกบางอย่างนั้นไม่สามารถกำหนดนิยามให้มันได้
มีช่วงที่รู้สึกไม่พอใจที่ตัวเองแสดงออกได้เพียงความรู้สึกโกรธและดีใจ
บางวัน เราอาจรู้สึกเขินอายจากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
ขณะเดียวกันก็รู้สึกโกรธเกรี้ยวขึ้นมาฉับพลันราวกับใจถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ
เพลงนี้เขียนขึ้นจากเรื่องราวของผู้คนในชีวิตที่ทำให้ฉันจมอยู่กับอารมณ์อันท่วมท้นที่ไม่สามารถแสดงออกได้ด้วยการให้คำนิยามเพียงคำเดียว

3. 바라던 바다 (Sea of Hope)

จะให้เห็นภาพแบบนี้ได้หรือ
ทำไมคุณถึงรักฉันแบบนี้กันนะ
แล้วฉันรักคุณในแบบที่ฉันต้องการได้จริงหรือ
แต่ยังไงเธอก็จะทิ้งฉันไปนี่นา

ฉันทุกข์ทรมานกับความคิดที่รบกวนฉัน
จึงหลับตาลงชั่วครู่ และเมื่อลืมตาขึ้น
เวลาก็ผ่านไปโดยที่ฉันไม่รู้ตัว

ทันใดนั้นฉันก็นึกได้ว่าสิ่งที่เฝ้ารออาจจะอยู่ที่นี่
และทันใดนั้นเองฉันก็คิดว่าคงจะดีไม่น้อยถ้าได้มาที่นี่
ท้องทะเลที่ฉันต้องการเสียตั้งมากมายอาจจะอยู่ที่นี่
หากว่ามีสถานที่แบบนั้นอยู่ ฉันก็หวังว่าจะเป็นที่นี่แหละ

หากว่าเป็นที่นี่จริง
ฉันก็คงกล้าที่จะลองปล่อยวางทุกอย่างลงเป็นครั้งแรก
เพราะมีความหวังขึ้นมาว่า บางทีอาจจะเป็นอย่างที่ฉันคิดหวังก็ได้ 

ท้องทะเลแห่งนี้ที่ไม่รู้จักความเร็ว คอยโอบกอดฉันไว้
และบอกฉันว่า หากคิดว่าไม่เป็นไร มันก็จะไม่เป็นไร
เป็นครั้งแรกที่ฉันฝากลมหายใจทั้งหมดไว้กับทะเลโดยที่ไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะมีอะไรอยู่

4. 권태기의 노래 (Between Summer And Winter)

เรื่องราวของคู่รักที่ยืนอยู่ระหว่างฤดูร้อนและฤดูหนาว
พวกเขาจะพากันไปสู่ฤดูกาลหน้าได้เหมือนอย่างเคยหรือไม่
จะหมดแรงไปกับฤดูร้อนอันร้อนระอุนี้ไปก่อน
หรือจะเผชิญกับฤดูหนาวอันที่เย็นยะเยือกกว่าเดิมได้หรือไม่
ฤดูใบไม้ร่วง*ครั้งนี้ของทั้งสองคนจะเป็นอย่างไรกันนะ

*ตามชื่อเพลง ระหว่างฤดูร้อนและฤดูหนาวคือฤดูใบไม้ร่วง

5. 모르고 그려도 서로를 그리다 (Destiny)

ชีวิตประกอบด้วยการตัดสินใจเลือกมากมาย
การตัดสินใจเลือกทางหนึ่งทำให้เกิดอีกทางเลือกหนึ่ง
และทางเลือกนั้นก็นำไปสู่ทางเลือกอื่น ๆ อีก
ณ ทางแยกแห่งการตัดสินใจ
หากคน ๆ หนึ่งได้พบกับใครสักคนที่ดึงดูดเข้าหากันโดยธรรมชาติ
ฉันคิดว่าความสัมพันธ์นั้นเข้าใกล้คำว่ามหัศจรรย์แล้ว
และหากมันเป็นความสัมพันธ์ที่น่ามหัศจรรย์แบบนี้
แม้จะตัดสินใจเลือกผิดหรือมีการเปลี่ยนตัวเลือกไปบ้าง
พวกเขาทั้งคู่ก็คงจะมีสายสัมพันธ์ผูกกันเหมือนอย่างตอนนี้

ดังนั้นแล้ว
เราคงจะได้พบกันไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง

6. Top or Cliff [*Title]

เรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ผลักตัวเองไปยืนที่ปากเหวตลอดชีวิตของเธอ เพราะต้องการยืนอยู่บนจุดสูงสุด

7. Jenga

เหตุใดบางคนถึงเพียรค้นหาคำโกหกที่ซ่อนอยู่ในคนที่ซื่อตรงกันนะ
อย่างที่คิดสงสัย จิตวิทยาของมนุษย์มีความคล้ายคลึงกันมาก
แต่ถึงอย่างนั้น ฉันคิดว่าคนเราแบ่งออกได้เป็นกลุ่มที่ไม่ไหวเอนตามสัญชาตญาณ และอีกกลุ่มที่ทำไม่ได้แบบนั้น
คนที่อดทนได้ สักพักอาจจะทนไม่ได้
ส่วนคนที่ทนต่อสัญชาตญาณไม่ได้แต่แรก ก็ไม่มีทางรู้เลยว่าต้องยืนหยัดอย่างไร
และอาจทำลายความพยายามของคนที่อดทนได้อยู่
เพลงนี้ขอมอบให้แด่คนที่ไม่สามารถอดทนต่อสัญชาตญาณได้

8. Indigo Promise

เรื่องราวความรักอันบริสุทธิ์ที่เกิดขึ้นในที่แห่งหนึ่งที่อยู่ระหว่างสีส้มและสีน้ำเงินคราม

9. 편지를 보내요 (Send A Letter)

จดหมายไม่ใช่เพียงการแลกเปลี่ยนข้อความและประโยค
มีหลายสิ่งหลายอย่างอยู่ในนั้นที่ไม่สามารถวัดได้ว่ามันลุ่มลึกเพียงใด
เพลงนี้เขียนขึ้นมาเพราะอยากให้ทุกคนรับรู้ถึงความรู้สึกที่อยู่ในจดหมายของฉันในวันนี้

10. 언젠가 무지개를 건너야 할 때 (Over The Rainbow)

ฉันไม่คิดว่าการจากลาจะหมายถึงจุดสิ้นสุดของความเป็นนิรันดร์
เพราะจุดสิ้นสุดของความเป็นนิรันดร์นั้นขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะตัดสินใจอย่างไร
ฉะนั้นแล้ว คุณอันเป็นนิรันดร์จะคงอยู่กับฉันตลอดไป

11. 빗소리가 들리면 (In the Rain)

ตอนที่คุณเริ่มหัดเดินครั้งแรก
ตอนที่คุณเรียนขี่จักรยานครั้งแรก
ตอนที่คุณกระโดดลงไปในทะเลเป็นครั้งแรก
มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะหกล้มหรือเปียกปอน
เพราะล้มลงจึงเดินได้
เพราะตัวเปียกจึงว่ายน้ำเป็น

เป็นการล้มลงอย่างดีทีเดียว แล้วก็เป็นการเปียกปอนอย่างดีเช่นกัน
เมื่อใดที่ช่วงเวลาอันน่ากลัวเข้ามาถึง
แค่ล้มลงไปอีกสักครั้ง
หลับตาแล้วกระโดดลงไปเหมือนอย่างที่เคยทำมา
คุณจะทำมันได้ดีแน่
อย่าลืมสิว่าที่ผ่านมาคุณทำได้ดีแค่ไหน


แปลเพลงในอัลบั้ม


Track 1 : 항해 (Voyage) 

เนื้อเพลง คิมเซจอง (김세정)
ทำนอง คิมเซจอง (김세정), 희장 [ฮีชาง] (Coke paris) & 김기산 [คิมกีชาน]
เรียบเรียง Coke paris

"ฉันจะเปล่งประกายบนเส้นทางของตัวเองเสมอไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม
แม้สักวันจะหลงทาง
ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยภัยอันตราย
ฉันจะคอยค้นหาอิสรภาพ ณ ที่แห่งนั้น
มุ่งหน้าไปสู่โลกที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน"

 

สู่ปลายฝั่งทะเลอันไกลโพ้น
ที่ซึ่งแสงจันทร์เริ่มสาดส่องในยามเช้า
 
เมื่อดอกไม้สีขาวหายลับไป
ความมืดมิดสีน้ำเงินครามเริ่มผลิบาน
มองเห็นวันนี้ที่ไม่เคยรู้มาก่อน
 
ปล่อยความกังวลของวันวานไปกับเกลียวคลื่น
เราลอยมาสูงถึงจุดนี้กันแล้ว
เราจะเดินทางไปให้ถึงอนาคต
อย่างสงบเงียบและค่อยเป็นค่อยไป
 
*ด้วยความฝันในยามค่ำคืน
เหนือคลื่นแห่งกาลเวลา
อย่าถูกซัดสาดไปจากตำแหน่งที่เธออยู่นะ
 
**จุ่มไม้พายลง ยกไม้พายขึ้น จุ่มไม้พายลง ยกไม้พายขึ้น คอยพายต่อไป
ลง ขึ้น ลง ขึ้น คอยพายไปเรื่อย ๆ
ยังไม่พอที่จะแล่นไปข้างหน้าหรอก
แต่อีกไม่นานก็คงจะเห็นสัญญาณแล้วล่ะ
 
***กางใบเรือขึ้น
แล่นไปตามกระแสลม
คอยจ้วงพายเรือ
เหมือนที่เคยทำมาเสมอ
และสั่นกระดิ่ง
ให้ดังกังวานไปไกลแสนไกล
 
มุ่งหน้าไปสู่โลกที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
 
จากฟากฟ้านั้น
แม้เริ่มจากจุดเล็ก ๆ
ฉันจะลากเส้นตรงเชื่อมต่อจุดพวกนั้น
เพื่อให้โลกของฉันเองได้บานสะพรั่งอย่างงดงาม
 
ไม่ได้สว่างสดใสตลอด
ไม่ได้เงียบสงบเสมอ
ทุกวันยังคงต้องเผชิญคลื่นยักษ์ที่สูงพอ ๆ กับตัวฉันเอง
คอยถาโถมเข้าใส่
 
แม้จะยังอยู่ที่แห่งเดิมเหมือนเมื่อวาน
ณ ตอนนี้ คลื่นลมก็ยังถาโถมสูงขึ้นอีก
แต่ฉันจะไปให้ถึงปลายทางในสักวันหนึ่ง
อย่างสงบเงียบและค่อยเป็นค่อยไป
 
*ด้วยความฝันในยามค่ำคืน
เหนือคลื่นแห่งกาลเวลา
อย่าถูกซัดสาดไปจากตำแหน่งที่เธออยู่นะ
 
**จุ่มไม้พายลง ยกไม้พายขึ้น จุ่มไม้พายลง ยกไม้พายขึ้น คอยพายต่อไป
ลง ขึ้น ลง ขึ้น คอยพายไปเรื่อย ๆ
ยังไม่พอที่จะแล่นไปข้างหน้าหรอก
แต่อีกไม่นานก็คงจะเห็นสัญญาณแล้วล่ะ
 
***กางใบเรือขึ้น
แล่นไปตามกระแสลม
คอยจ้วงพายเรือ
เหมือนที่เคยทำมาเสมอ
และสั่นกระดิ่ง
ให้ดังกังวานไปไกลแสนไกล
 
มุ่งหน้าไปสู่โลกที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
 
ฉันจะเปล่งประกายบนเส้นทางของตัวเองเสมอไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม
แม้สักวันจะหลงทาง
ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยภัยอันตราย
ณ ที่แห่งนั้น ฉันจะคอยค้นหาอิสรภาพ 
เหนือคลื่นลูกใหญ่นั้น
ฉันจะข้ามพ้นมันไปให้เหมือนกับกำลังเต้นรำ 
 
***กางใบเรือขึ้น
แล่นไปตามกระแสลม
คอยจ้วงพายเรือ
เหมือนที่เคยทำมาเสมอ
และสั่นกระดิ่ง
ให้ดังกังวานไปไกลแสนไกล
 
มุ่งหน้าไปสู่โลกที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน


Track 2 : If We Do

เนื้อเพลง คิมเซจอง (김세정)
ทำนอง คิมเซจอง (김세정), MIN, BYMORE
เรียบเรียง BYMORE, MIN

"ความเป็นนิรันดร์ไม่มีอยู่จริง
แต่คุณหยุดรั้งฉันไว้ได้ทุกครั้ง
แต่ที่แย่กว่านั้น
คือฉันอยากจะรักคุณให้น้อยกว่าที่คุณรักฉัน"

 

สภาพอากาศที่เคาะทักทายที่บานหน้าต่าง
ลำโพงที่ฉันเปิดเพลงทิ้งไว้สักระยะแล้ว
เสียงที่ได้ยินผ่านหู
สบสายตาของคุณที่นอนบนตักฉัน

โอ้
ใช่ ฉันรักคุณ

บางครั้งความหดหู่อันคลุมเครือก็เข้ามา
และบางทีก็มีความสุขจนน่ากลัว

*ตอนเรากินอาหารเช้าควบเที่ยง เหมือนกับเพลงแจ๊ส
ตอนเราทะเลาะกัน เหมือนกับเพลงร็อค
แววตาสุกใสของคุณ เหมือนกับเพลงอะคูสติก
ความรู้สึกเหล่านี้ดังก้องโดยไม่ต้องผ่านอุปกรณ์ใดเลย

มีเพียงแสงอาทิตย์
ก็มีความสุข
อย่านำพาความมืดมิดมาเลย
มันชวนให้เหงาน่ะ

ชัดเจนว่า
ถึงคุณจะแตกต่างออกไป
แต่ฉันก็รักคุณ

เมื่อคุณหลับตาลง
รู้สึกยุบยิบในใจ
ความรู้สึกรักและหวงแหนคุณนั้นเอ่อล้นออกมา
จะใช้ถ้อยคำใด
ก็อธิบายสื่อถึงคุณไม่ดีพอ

*ตอนเรากินอาหารเช้าควบเที่ยง เหมือนกับเพลงแจ๊ส
ตอนเราทะเลาะกัน เหมือนกับเพลงร็อค
แววตาสุกใสของคุณ เหมือนกับเพลงอะคูสติก
ความรู้สึกเหล่านี้ดังก้องโดยไม่ต้องผ่านอุปกรณ์ใดเลย

ความเป็นนิรันดร์ไม่มีอยู่จริง
แต่คุณหยุดรั้งฉันไว้ได้ทุกครั้ง
แต่ที่แย่กว่านั้น
คือฉันอยากจะรักคุณ
ให้น้อยกว่าที่คุณรักฉัน


 

Track 3 : Sea of Hope

เนื้อเพลง คิมเซจอง (김세정)
ทำนอง 623 ยูฮยอนชอล (유현철), 623 คิมยองโฮ (김영호)
เรียบเรียง 623

"ช่วยอยู่กับฉัน
อย่างสงบนิ่งและเปล่งประกายเช่นนี้ตลอดไป
และกอดฉันไว้เหมือนอย่างตอนนี้"

 


แสงอาทิตย์ตกกระทบอาบไล้
ใบหน้าของคุณที่นอนหลับอยู่นี้
ช่างงดงาม

วันนี้คุณก็ถาโถมเข้ามาเหมือนเคย
คอยทำให้ฉันฝันอย่างคลุมเครือ
กระวนกระวายใจ

ทำแบบนี้กับฉันได้อย่างไรนะ
อยากให้ฉันมอบความรักแก่คุณโดยไม่มีเงื่อนไขหรือ

*ความรู้สึกท่วมท้น
เมื่อได้อยู่ในอ้อมแขนอันร้อนระอุของคุณ
เป็นครั้งแรกที่ฉันหายใจได้อย่างอิสระ
หลังจากที่เหมือนจะขาดอากาศหายใจ
ในใจของฉันมีหยดน้ำตา
เมื่อท้ายที่สุดคุณได้มาพบฉัน

ฉันขอโทษ
ฉันรักคุณ

เวลาที่ฉันพรั่งพรูความลับออกมา
ขณะที่คุณที่กอดฉันไว้อย่างใจเย็นนั้น
ช่างงดงาม

แม้จะเฝ้ามองคุณอยู่นานแล้ว
แต่มีบางครั้งที่รู้สึกไม่คุ้นชิน

คุณเป็นทุกอย่างให้ฉันเช่นนี้ได้อย่างไร
นี่คือปาฏิหารย์หรือเปล่า

*ความรู้สึกท่วมท้น
เมื่อได้อยู่ในอ้อมแขนอันร้อนระอุของคุณ
เป็นครั้งแรกที่ฉันหายใจได้อย่างอิสระ
หลังจากที่เหมือนจะขาดอากาศหายใจ
ในใจของฉันมีหยดน้ำตา
เมื่อท้ายที่สุดคุณได้มาพบฉัน

การได้พบกับคุณที่ทั้งเหมือนและต่างจากฉัน
ราวกับว่าในท้ายที่สุดแล้วก็ได้พบกับวันที่เฝ้ารอ
ท้องทะเลของฉันถาโถมเข้ามาอีกครั้ง

ช่วยอยู่กับฉัน
อย่างสงบนิ่งและเปล่งประกายเช่นนี้ตลอดไป
และกอดฉันไว้เหมือนอย่างตอนนี้

*ความรู้สึกท่วมท้น
เมื่อได้อยู่ในอ้อมแขนอันร้อนระอุของคุณ
เป็นครั้งแรกที่ฉันหายใจได้อย่างอิสระ
หลังจากที่เหมือนจะขาดอากาศหายใจ
ในใจของฉันมีหยดน้ำตา
เมื่อท้ายที่สุดคุณได้มาพบฉัน

ขอบใจนะ
ฉันรักคุณ


Track 4 : Between Summer and Winter

เนื้อเพลง คิมเซจอง (김세정)
ทำนอง คิมเซจอง (김세정), ฮีชาง (희창) Coke Paris
เรียบเรียง ฮีชาง (희창) Coke Paris

"เมื่อช่วงเวลานี้ผ่านไป ฉันจะคิดถึงคุณ
แม้จะเจ็บปวดแต่ก็งดงาม"

 


เดินทางมาถึงรอยต่อระหว่างฤดูร้อนและฤดูหนาว
ช่วงเช้าของฤดูใบไม้ร่วงที่ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามา

ไปเที่ยวกันเถอะ ไม่ใช่ครั้งหน้า แต่เป็นตอนนี้เลย
แสงแดดจ้าและร้อนระอุ
แม้จะทำให้เจ็บปวดแต่ก็มีความสุข
ฤดูร้อนมาถึงแล้ว
โดยที่ไม่ใช่ความผิดของใครเลย¹

ไหน ๆ ฤดูที่กำลังผันผ่านก็จะมาแล้ว
ก็ขอให้เข้ามาด้วยดีเถอะ
เหมือนกับเราสอง
ไปพบกันในฤดูหนาวกันเถอะ

เราออกวิ่งโดยปราศจากความกลัว
เตรียมอุณหภูมิร่างกายให้พร้อมนะ

การพร้อมต้อนรับฤดูกาลที่จะเข้ามา
หมายความว่าเราชินกับมันแล้วว่าไหม
เราอย่าปล่อยมือกันไปเลยนะ

เมื่อช่วงเวลานี้ผ่านไป ฉันจะคิดถึงคุณ
แม้จะเจ็บปวดแต่ก็งดงาม
ฤดูหนาวมาถึงแล้ว
โดยที่ไม่ใช่ความผิดของใครเลย

ไหน ๆ ฤดูที่กำลังผันผ่านก็จะมาแล้ว
ก็ขอให้เข้ามาด้วยดีเถอะ
เต้นรำอย่างครึกครื้น
ใช้เวลาในฤดูร้อนนี้ด้วยกันเถอะ

พรุ่งนี้ที่ดูเหมือนห่างไกลจะมาถึง
เหมือนกับเราไม่เคยรู้จักกัน
ฉันคือคุณ
และคุณก็คือฉัน
โอบกอดกันให้แน่นขึ้น
และไปเจอกันในฤดูหนาวเถอะ²

Note

¹โดยไม่ใช่ความผิดของใครเลย = แม้จะผ่านสถานการณ์ที่ร้อนระอุหรือเย็นยะเยือกในความสัมพันธ์ แต่มันก็คล้ายกับฤดูกาลที่สักวันจะผันผ่านไป เซจองขยายความว่า ท่อนนี้สื่อถึงแพชชั่นในงานเพลงของตัวเองอีกด้วย บางช่วงแพชชั่นอาจจะแรงกล้า แต่บางช่วงก็อาจมอดลง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร และให้ใช้ชีวิตอย่างมีความหวังเพื่อรอคอยวันที่สดใสมาเยือน

²โอบกอดกันให้แน่นขึ้น และไปเจอกันในฤดูหนาวเถอะ = แม้จะเจอความหนาวเหน็บ หากกอดกันไว้แล้วไปเผชิญฤดูหนาวด้วยกัน ก็คงจะผ่านพ้นช่วงเวลานั้นไปได้อย่างดี เพื่อรอต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่จะมาถึงต่อไป


Track 5 : Destiny

เนื้อเพลง คิมเซจอง (김세정)
ทำนอง อีอูมิน (이우민) 'collapsedone', คิมเซจอง (김세정)
เรียบเรียง อีอูมิน (이우민) 'collapsedone'

"หากมีบางสิ่งต่างออกไป
สุดท้ายแล้ว เราจะพ่ายแพ้ในความสัมพันธ์นี้ใช่ไหม
ไม่หรอก
เพราะเราเชื่อมถึงกันโดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว"

 


ภายใต้ตัวเลือกมากมายที่ผ่านมา
หากเลือกทางอื่น
จะไม่มีพวกเราในตอนนี้หรอ
คุณคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน
คุณคือโลกของฉัน

ลองนึกดูสิ
หากในวันนั้น
ฉันไม่ได้กลิ่นหอมที่ลอยผ่านปลายจมูก
หากฉันไม่ได้หยุดอยู่ใต้ผืนฟ้าที่แตกต่างจากเมื่อวาน
เราเดินผ่านกันไปเฉย ๆ หรือเปล่า

ในห้องเล็ก ๆ ของฉัน
คุณที่อยู่ในอ้อมแขนของฉันในตอนกลางวัน
หากยังอยู่แบบนี้
หากฉันไม่ได้เปลี่ยนใจ และหากคุณไม่ได้ก้าวออกไป
จะไม่มีพวกเราในตอนนี้หรอ

*ไม่หรอก
เพราะเราเชื่อมถึงกันโดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว

**สักวันหนึ่ง คุณกับฉัน
ราวกับเชื่อมโยงกันด้วยบางสิ่งบางอย่าง
บนเส้นทางที่ย้อมด้วยแสงอาทิตย์ในยามเย็น
และเมื่อหยุดอยู่ใต้แสงจันทร์
คือการเผชิญหน้าของเราสอง
ที่เหมือนกับฟ้าลิขิตมาให้

***Eh O Eh O Eh O Eh O
เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น และดวงจันทร์ลาลับ
เราเดินทางไปตามเส้นทางเดียวกัน

****Eh O Eh O Eh O Eh O
ชะตาที่เชื่อมถึงกันโดยที่ไม่รู้ตัว
นั่นคือวิธีที่เราจะได้พบกัน

หากว่าเรา
ไม่ได้อยู่ด้วยกันในตอนนี้
จะมีสิ่งใดเปลี่ยนไปไหม
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเราบ้าง

เมื่อเราต้องอยู่ห่างกัน
หากมีบางสิ่งต่างออกไป
สุดท้ายแล้ว เราจะพ่ายแพ้ในความสัมพันธ์นี้ใช่ไหม

*ไม่หรอก
เพราะเราเชื่อมถึงกันโดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว

สักวันหนึ่ง คุณกับฉัน
แม้จะรู้อยู่แล้ว แต่ก็ถูกชักพาไป
บนเส้นทางที่ย้อมด้วยแสงอาทิตย์ในยามเย็น
และเมื่อหยุดอยู่ใต้แสงจันทร์อีกครั้ง
คือการเผชิญหน้าของเราสอง
ที่เหมือนกับฟ้าลิขิตมาให้

***Eh O Eh O Eh O Eh O
เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น และดวงจันทร์ลาลับ
เราเดินทางไปตามเส้นทางเดียวกัน

****Eh O Eh O Eh O Eh O
ชะตาที่เชื่อมถึงกันโดยที่ไม่รู้ตัว
นั่นคือวิธีที่เราจะได้พบกัน

เมื่อกลับมาถึงห้องของฉัน
คุณที่อยู่เบื้องหลังดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตก
หากแอบซ่อนไว้
หากหยุดเพียงเท่านี้โดยที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
จะไม่มีเราอีกต่อไปแล้วใช่ไหม

*ไม่หรอก
เพราะเราเชื่อมถึงกันโดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว

**สักวันหนึ่ง คุณกับฉัน
ราวกับเชื่อมโยงกันด้วยบางสิ่งบางอย่าง
บนเส้นทางที่ย้อมด้วยแสงอาทิตย์ในยามเย็น
และเมื่อหยุดอยู่ใต้แสงจันทร์
คือการเผชิญหน้าของเราสอง
ที่เหมือนกับฟ้าลิขิตมาให้

***Eh O Eh O Eh O Eh O
เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น และดวงจันทร์ลาลับ
เราเดินทางไปตามเส้นทางเดียวกัน

****Eh O Eh O Eh O Eh O
ชะตาที่เชื่อมถึงกันโดยที่ไม่รู้ตัว
นั่นคือวิธีที่เราจะได้พบกัน

ไม่ว่าจะเป็นแบบใด
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
เราจะต้องได้พบกัน
และจากนั้น จนถึงตอนนั้น เรามาวาดเรื่องราวของเรา
เพื่อให้เราได้พบกันในที่สุด



Track 6 : Top or Cliff

เนื้อเพลง คิมเซจอง (김세정)
ทำนอง TOMO, Lydia Lee
เรียบเรียง TOMO
 

"คุณคงชอบอะไรที่ง่าย ๆ สินะ
ดูก็รู้แล้วว่าคุณอยู่ระดับไหน
เคยรู้สึกแหลกสลายบ้างไหมล่ะ
ฉันไม่เหมือนคุณหรอกนะ
แม้จะบอบช้ำและพังทลายแค่ไหน ฉันก็ยังคงยืนหยัดอยู่ตรงนี้
ฉันคือคนที่เหมาะสม
ที่จะยืนอยู่ตรงนี้เพียงลำพัง"

 

คุณแค่ต้องการกักขังฉันไว้ภายใน
ทำไมกันล่ะ
อยากเปิดเผยความอ่อนแอที่ฉันซ่อนไว้เหรอ (เฮ้ ไม่สิ)
นี่คงเป็นวิธีการทั้งหมดที่คุณมีสินะ
พอใจแล้วใช่ไหม
 
หากจะมีความแตกต่างระหว่างคุณกับฉันล่ะก็
พอจะมีสักเสี้ยวส่วนหนึ่งที่คุณรู้สึกถึงมันบ้างไหม
แม้ว่าจะไม่มีอะไรเลยก็ตาม
คุณน่ะโง่จริง ๆ ด้วย
หันกลับมามองหน้าฉันอีกครั้งสิ
 
*โอ้ ที่รัก
งานปาร์ตี้น่ะ ไม่มีชื่อคุณอยู่ในคำเชิญตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ
พระผู้เป็นเจ้าคะ
โปรดช่วยเหลือหนุ่มน้อยคนนี้ทีเถอะค่ะ
 
**ดูสิ ฉันสมควรได้รับมันนะ
ไม่ว่าใครหน้าไหนจะเข้ามา ฉันจะพิสูจน์ให้เห็นเองว่าฉันมั่นใจ
ช่างอ่อนแอเหลือเกิน
มือนั้นที่คอยโบกเรียกหาน่ะ เข้าไม่ถึงตัวฉันหรอกนะ ว่าไหม
ฉันคือคนที่เหมาะสม
ที่จะยืนอยู่ตรงนี้เพียงลำพัง
 
เปิดเผยมาสิ สิ่งที่คุณซุกซ่อนอยู่ข้างใน
ฉันเห็นนะว่าคุณปกปิดบางอย่างไว้
รู้อยู่แล้วด้วยว่าคุณโกหก
พอเถอะ อย่าทำตัวให้อ่านง่ายขนาดนั้นสิ
 
คุณคงชอบอะไรที่ง่าย ๆ สินะ
ดูก็รู้แล้วว่าคุณอยู่ระดับไหน
เคยรู้สึกแหลกสลายบ้างไหมล่ะ
ฉันไม่เหมือนกับคุณหรอก
แม้จะบอบช้ำและพังทลายแค่ไหน ฉันก็ยังคงยืนหยัดอยู่ตรงนี้
 
*โอ้ ที่รัก
งานปาร์ตี้น่ะ ไม่มีชื่อคุณอยู่ในคำเชิญตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ
พระผู้เป็นเจ้าคะ
โปรดช่วยเหลือหนุ่มน้อยคนนี้ทีเถอะค่ะ
 
**ดูสิ ฉันสมควรได้รับมันนะ
ไม่ว่าใครหน้าไหนจะเข้ามา ฉันจะพิสูจน์ให้เห็นเองว่าฉันมั่นใจ
ช่างอ่อนแอเหลือเกิน
มือนั้นที่คอยโบกเรียกหาน่ะ เข้าไม่ถึงตัวฉันหรอกนะ ว่าไหม
ฉันคือคนที่เหมาะสม
ที่จะยืนอยู่ตรงนี้เพียงลำพัง
 
ฉันยืนอยู่บนจุดสูงสุด
หรือแท้จริงแล้ว
กำลังยืนอยู่ที่ริมหน้าผาสูงชัน
 
ดูสิ ฉันสมควรได้รับมันนะ
ไม่ว่าใครหน้าไหนจะเข้ามา ฉันจะพิสูจน์ให้เห็นเองว่าฉันมั่นใจ
ฉันไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว
ไม่จำเป็นต้องได้รับไมตรีจิตอะไรจากคุณเลย ว่าไหม
ฉันคือคนที่เหมาะสม
ที่จะยืนอยู่ตรงนี้เพียงลำพัง
และไม่ต้องการความช่วยเหลืออะไรทั้งนั้นด้วย


Track 7 : Jenga

เนื้อเพลง คิมเซจอง (김세정)
ทำนอง คิมเซจอง (김세정), ฮีชาง (희창) Coke Paris
เรียบเรียง ฮีชาง (희창) Coke Paris, Hongsamman

"ฟองอากาศลอยอยู่เหนือบล็อกที่ต่อกันเป็นชั้นนั้นแตกออก
ให้มันระเบิดต่อไป
เดี๋ยวก็จะรู้เอง ว่าจากทุกฟองอากาศนั้น
ว่าใครกันแน่ที่จะสะดุดล้มลง"

 

 
ฉันในสายตาของคุณคงดูซื่อบื้อ
พอไม่ปริปากพูด ฉันคงดูเหมือนสุนัขเชื่อง ๆ

ข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริง
แพร่สะพัดไปทั่วราวกับเป็นเรื่องของฉัน
กำแพงที่ฉันพยายามก่อขึ้นเพื่อป้องกันการพังทลาย
คุณเป็นคนพังมันลง

โอ้ คุณคิดว่าฉันดูตลกใช่ไหม
คอยดูให้ดีเถอะว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ความจริงไม่สำคัญหรอก
คงต้องล้างปากจากเรื่องคาว ๆ¹ สักหน่อย
หลังจากการซุบซิบเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนั้น

นั่นคือ A แล้ว B ล่ะ ใช่เขาไหม²
คงจะเป็นแบบนี้แหละ ในสักวันหนึ่ง²

สมัยเราเป็นแบบนั้น สมัยฉันเป็นแบบนี้
สมัยนี้น่ะ เป็นยุคของ... บลา ๆ³

คุณคิดว่าฉันตลกหรือ
ดูให้ดีสิว่าใครเป็นผู้ชนะ

*ฟองอากาศ⁴ลอยอยู่เหนือบล็อกที่ต่อกันเป็นชั้นนั้นแตกออก
ให้มันระเบิดต่อไป
เดี๋ยวก็จะรู้เอง ว่าจากทุกฟองอากาศนั้น
ว่าใครกันแน่ที่จะสะดุดล้มลง

ใครจะแย่กว่า
หรือใครจะดีกว่ากัน
ใครจะเป็นฝ่ายถูก yeah
ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่มีความหมายอยู่ดี

ฉันจะไปหาคุณแน่
ส่วนเวลาของคุณนั้น
จงใช้มันเสียสิ oh
แล้วฉันจะช่วงชิงมันมาจากคุณอีกครั้งเอง

คอยดูเถอะ ในตอนสุดท้ายน่ะ

*ฟองอากาศลอยอยู่เหนือบล็อกที่ต่อกันเป็นชั้นนั้นแตกออก
ให้มันระเบิดต่อไป
เดี๋ยวก็จะรู้เอง ว่าจากทุกฟองอากาศนั้น
ว่าใครกันแน่ที่จะสะดุดล้มลง

 

Note

¹입가심 = การกินหรือดื่มบางสิ่งล้างปาก เช่น กินอาหารคาวแล้วตบท้ายด้วยของหวานล้างปาก

²เล่นคำว่า 쟨가 /เจน-กา/ มีความหมายทั้ง "เกมเจนก้า" (เกมต่อบล็อกไม้และผลัดกันดึงคนละชิ้น ใครที่ทำล้มจะเป็นผู้แพ้) และอีกความหมายหนึ่งหมายถึง "นั่นเขา/เธอหรือ" น่าจะสื่อว่า คำซุบซิบนินทาที่พูดไปเรื่อยเปื่อย ไม่รู้ว่าพูดถึงใครกันแน่ แต่ทำให้เกิดผลเสียหาย และวรรคถัดมา เล่นกับคำพ้องให้เสียงสัมผัส 쟨가 /เจน-กา/ - 언젠가 /ออน-เจน-กา/ ที่แปลว่า ในสักวันหนึ่ง

³나 때는 말야 = สมัยฉันน่ะ... เป็นคำที่คนสูงวัยจะพูดกับเด็ก เช่น "สมัยป้านะ ลำบากกว่านี้อีก" แต่ในเพลงนี้น่าจะหมายถึง คนที่ชอบอวดเบ่งว่าตัวเองรู้ดีและเก่งกว่าคนอื่น และชอบให้คำแนะนำในเชิงกดอีกฝ่ายให้ต่ำลงว่า "ต้องทำแบบนั้นแบบนี้สิถึงจะดี"

⁴Bubble = ฟองอากาศ หรืออาจหมายถึง คำพูดพล่ามไร้สาระ บริบทนี้จะสื่อว่า ไม่ว่าจะพยายามจะพูดนินทาอะไรก็เป็นเพียงเรื่องไร้สาระ ไม่น่าให้ค่า และสุดท้ายที่คนคอยนินทาว่าร้ายคนอื่นก็จะแพ้ภัยตัวเอง

*เพลงนี้ผู้แปลตีความตามหลักภาษาและหาข้อมูลด้วยตัวเอง อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด

Track 8 : Indigo Promise

เนื้อเพลง คิมเซจอง (김세정)
ทำนอง คิมเซจอง (김세정), 623 ยูฮยอนชอล (유현철), 623 คิมยองโฮ (김영호)
เรียบเรียง 623

"ฉันเชื่อในตัวคุณ
เพียงสื่อสารผ่านสายตาที่สบกัน
ความกลัวก็สลายหายไป
มีเพียงความหวานที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ"

 

คล้ายว่าเรา
เคยสัญญาบางอย่างกันไว้
ที่นี่ในค่ำคืนนี้

ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใดมากมาย
แค่มองตาฉันก็พอ

ลมหายใจถี่กระชั้น
เมื่อเข้าถึงตัวคุณ
เสียงรอบกายพลันเงียบงัน
หยุดทุกสิ่งและมองตาคุณ
ใกล้ขึ้นทุกที

ไม่ต้องรีบร้อน
ฟังฉัน
และได้โปรดตอบรับกลับมา
ให้มากเท่าที่ฉันต้องการ
อย่างนุ่มนวล

*ฉันชอบทุกอย่างที่เป็นคุณ
ให้คุณตัดสินใจเลย
ฉันจะไปตามมือที่คุณจับไว้
สู่ห้วงความฝันในอ้อมแขนกันและกัน
เราต่างก็ตื่นเต้น
ความหวานที่แผ่ซ่าน
ความเนิบช้าทว่าร้อนแรง
ไปสู่ปลายทางของค่ำคืนนี้ด้วยกัน

**หมอกขาวสลัว
แสงสีส้มลอดผ่านหน้าต่าง
ค่ำคืนที่ไม่สิ้นสุด
นั้นยังโบยบินต่อไป
ได้อีกไกลแสนไกล

***ท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม
รุ่งอรุณสีฟ้าคราม
เสียงงึมงำในลำคอยังคงแว่วอยู่

ดวงอาทิตย์ขึ้นก่อนที่เราจะรู้ตัวเสียอีก
ผิวกายเราสองร้อนรุ่ม
ยามเช้าอันลึกซึ้งยิ่งกว่าทั้งวัน

มากกว่าความฝันในคืนวาน
ยังมีอีกหลายวันนับจากนี้
ชวนให้ใจสั่นยิ่งขึ้น
ทำตามเสียงของหัวใจ

*ฉันชอบทุกอย่างที่เป็นคุณ
ให้คุณตัดสินใจเลย
ฉันจะไปตามมือที่คุณจับไว้
สู่ห้วงความฝันในอ้อมแขนกันและกัน
เราต่างก็ตื่นเต้น
ความหวานที่แผ่ซ่าน
ความเนิบช้าทว่าร้อนแรง
ไปสู่ปลายทางของค่ำคืนนี้ด้วยกัน

ฉันเชื่อในตัวคุณ
เพียงสื่อสารผ่านสายตาที่สบกัน
ความกลัวก็สลายหายไป
มีเพียงความหวานที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ

*ฉันชอบทุกอย่างที่เป็นคุณ
ให้คุณตัดสินใจเลย
ฉันจะไปตามมือที่คุณจับไว้
สู่ห้วงความฝันในอ้อมแขนกันและกัน
เราต่างก็ตื่นเต้น
ความหวานที่แผ่ซ่าน
ความเนิบช้าทว่าร้อนแรง
ไปสู่ปลายทางของค่ำคืนนี้ด้วยกัน

**หมอกขาวสลัว
แสงสีส้มลอดผ่านหน้าต่าง
ค่ำคืนที่ไม่สิ้นสุด
นั้นยังโบยบินต่อไป
ได้อีกไกลแสนไกล

***ท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม
รุ่งอรุณสีฟ้าคราม
เสียงงึมงำในลำคอก็ยังคงแว่วอยู่


Track 9 : Send a Letter

เนื้อเพลง คิมเซจอง (김세정)
ทำนอง คิมเซจอง (김세정), คิมคีชาน, ฮีชาง (희창) Coke Paris
เรียบเรียง Coke Paris

"ในสักวัน ขอให้คุณกับฉันได้พบกัน
ในวันเดียวกัน สถานที่เดียวกัน และแบ่งปันความรู้สึกเดียวกัน"

 


สายลมพัดผ่านแก้ม
พาเอากลิ่นหอมในยามเช้ามา
กดลงหนักแน่น
ราวกับจะทักทายกัน

ทั้งร่องรอยของอรุณที่ผ่านไป
และหยาดน้ำค้างบนดอกไม้ที่ผลิบาน
ฉันจะเขียนลงไปทั้งหมด
โดยไม่ตัดทอนใจความ

ทำไมกันนะ
ทุกครั้งที่ฉันรู้สึกดี
ฉันถึงได้อยากเขียนจดหมาย
แล้วส่งมันไปหาคุณ

คุณพอจะนึกถึง
ฉันในตอนนี้ไหม
มาอยู่ด้วยกันเถอะ

หากฉันเขียนเกี่ยวกับค่ำคืนนี้ลงไป
กลางวันก็อาจกลายเป็นกลางคืน
ตัวฉันเมื่อวานนี้
กับคุณในวันนี้
ราวกับได้อยู่ในสถานที่เดียวกัน
อยากจดจำเรื่องราวในช่วงเวลานี้ของคุณ
จึงเขียนมันลงไปในจดหมายแล้วส่งไปคุณ

ในเช้าของวันรุ่งขึ้นของฉัน
เพื่อที่จะได้อยู่กับคุณ

ขณะที่ฉันอ่านจดหมาย
พื้นที่ว่างระหว่างคุณกับฉัน
จะถูกเติมเต็ม
ด้วยประโยคเหล่านั้นของฉัน

หากฉันเขียนฤดูกาลหนึ่งลงไป
ให้คุณลองเปิดฤดูกาลนั้นออก
เรื่องราวของฉัน
และความทรงจำของคุณ
ราวกับได้อยู่ในสถานที่เดียวกัน
ฤดูกาลที่ระลึกขึ้นได้
ฉันจะเขียนมันลงไปแล้วส่งจดหมายไปหาคุณ

ด้วยความทรงจำที่สวยงาม ณ ขณะนั้น
เพื่อที่จะได้พบกับตัวฉันเองในอนาคต

ยังมีหลายสิ่งที่อยากบอกคุณ
ฉันเฝ้ารอคอยอยู่ทุกวัน
วันนี้ท้องฟ้าก็สวยเหมือนเคย
ในสักวัน ขอให้คุณกับฉันได้พบกัน
ในวันเดียวกัน สถานที่เดียวกัน และแบ่งปันความรู้สึกเดียวกัน

ช่วงเวลาที่เราใช้ร่วมกัน
จะกลายเป็นความทรงจำอีกครั้งหนึ่ง
แม้เวลาจะผ่านไป
ทุกสิ่งจะยังคงทิ้งร่องรอยเอาไว้
และมันอาจเข้ามาในความคิดของเราอีกครั้ง
ในหน้าใดหน้าหนึ่งของชีวิต

และเมื่อถึงช่วงเวลานั้น
ฉันหวังว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันนะ


Track 10 : Over the Rainbow

เนื้อเพลง คิมเซจอง (김세정)
ทำนอง Johan Gustafsson, Emily Yeonseo Kim, Gabriel Brandes
เรียบเรียง Johan Gustafsson

"มองย้อนกลับไปยังวันเวลาเหล่านั้น
โลกของฉันที่มีคุณ
ราวกับฉันได้อยู่บนสรวงสวรรค์ตลอดมา
ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วล่ะ
เหตุผลที่คุณคือเพื่อนของฉัน...จวบจนนิรันดร์"

 


ช่วงเวลาที่หลงเหลืออยู่
เหตุใดจึงสั้นนักนะ
แต่ละวันเต็มไปด้วยความเสียใจ

ฉันรวบรวมเรี่ยวแรงอย่างยากลำบาก
แล้วนั่งลงตรงหน้าคุณ เพื่อพูดคุยกัน

ช่วงเวลาที่สวยงามของเรา
หวังให้หลงเหลือไว้ราวกับภาพวาดสีน้ำ¹
ความทรงจำที่ผุดขึ้นมาในหัวของฉัน
หวังว่าจะไม่ทำให้คุณเจ็บปวดใจ

คุณกอดฉันไว้แล้วสบตากัน
หัวใจทั้งหมดของคุณ
ฉันรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอเลย

*สักวันหนึ่ง ฉันอาจจากคุณไปไกลแสนไกล
เพื่อเดินทางบนสะพานสายรุ้งที่ทอดยาว

**ฉันอยากเล่าให้คุณฟัง
เรื่องราวสุดท้ายของฉัน
คือฉันรักคุณเสมอ
ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วล่ะ
เหตุผลที่คุณคือเพื่อนของฉันตลอดกาล

หวังว่าจะมีแสงสว่างส่องผ่านหน้าต่าง
ในห้องที่มีคุณอยู่เพียงลำพัง
ขอให้น้ำตานั้นไม่ใช่น้ำตาแห่งความเจ็บปวด
ขอภาวนาให้ครั้งต่อไปที่พบกัน ฉันจะได้อยู่เคียงข้างคุณอีกครั้ง

ช่วงเวลาที่สวยงามของเรา
หลงเหลือไว้ราวกับภาพถ่าย¹
และหวังว่าความทรงจำที่ผ่านไป
จะเหลือเพียงรอยยิ้มเท่านั้น

เมื่อวันของคุณสิ้นสุดลงพร้อมกับฉัน
ฉันรู้สึกขอบคุณเสมอ

*สักวันหนึ่ง ฉันอาจจากคุณไปไกลแสนไกล
เพื่อเดินทางบนสะพานสายรุ้งที่ทอดยาว

**ฉันอยากเล่าให้คุณฟัง
เรื่องราวสุดท้ายของฉัน
คือฉันรักคุณเสมอ
ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วล่ะ
เหตุผลที่คุณคือนิรันดร์กาลของฉัน

ตุ๊กตาหมีที่เล่นอยู่ทุกวัน
อยู่บนพื้นที่สึกกร่อนไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
ณ จุดสิ้นสุดของการเดินทางของฉัน
มือคู่นั้นโอบกอดฉันเอาไว้
ไม่สามารถลืมเลือนความทรงจำ
และช่วงเวลาทั้งหมดที่มีร่วมกับคุณได้เลย
ณ จุดสิ้นสุดในโลกอันแสนมืดมิด
ฉันหวังว่าจะเอื้อมถึงคุณอีกครั้ง

วันใดวันหนึ่ง ฉันที่อยู่ในอ้อมแขนของคุณ
จะเดินทางสู่สะพานสายรุ้งที่ทอดยาว
ขณะที่มองเธอไปด้วย

มองย้อนกลับไปยังวันเวลาเหล่านั้น
โลกของฉันที่มีคุณ
ราวกับฉันได้อยู่บนสรวงสวรรค์ตลอดมา
ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วล่ะ
เหตุผลที่คุณคือเพื่อนของฉัน...จวบจนนิรันดร์

NOTE

เพลงนี้สื่อถึงดเวนจัง (สุนัขของเซจอง) บอกเล่าความรักระหว่างวัตว์เลี้ยงและเจ้าของ บางท่อนก็บอกเล่าผ่านความรู้สึกของเซจองที่มีต่อเดวนจัง และในขณะเดียวกันหลายท่อนสื่อถึงความรู้สึกของดเวนจังที่มีต่อเซจอง

¹ "ช่วงเวลาที่สวยงามของเรา หวังให้หลงเหลือไว้ราวกับภาพวาดสีน้ำ" สีน้ำมีคุณลักษณะโปร่งใส ไม่ทึบแสง เวลาระบายจะต้องผสมน้ำเยอะ และไล่ระบายจากสีอ่อนไปเข้ม เซจองเล่าว่าเหตุที่เลือกใช้คำว่า "สีน้ำ" แทนสีน้ำมัน เพราะเสดงถึงช่วงเวลาที่ได้อยู่กับดเวนจังนั้นชัดเจนมาก ทั้งความทรงจำที่สวยงามและเจ็บปวด ซึ่งจะยังชัดเจนและไม่เจือจางไป เหมือนกับภาพวาดสีน้ำ

แต่ในเวิร์สถัดมาเปลี่ยนเป็น "ช่วงเวลาที่สวยงามของเรา หลงเหลือไว้ราวกับภาพถ่าย" นั้นหมายถึงความชัดเจนของภาพความทรงจำในอีกแบบหนึ่ง ไม่ว่าในอนาคตจะจากกันไป แต่ความทรงจำระหว่างเราที่มีแต่ความสุขและรอยยิ้มจะชัดเจนราวกับภาพที่เคยถ่ายไว้

Track 11 : In the Rain

เนื้อเพลง คิมเซจอง (김세정)
ทำนอง คิมเซจอง (김세정), Flow Blow จองกุกยอง (정국영), Flow Blow ยังฮาอี (양하이)
เรียบเรียง ออยองซู (어영수), คิมซองฮยอน (김성현)

"ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว
สองเท้าที่เปียกปอน
หลังออกวิ่งและล้มลงจนเปียกไปทั้งตัว
แม้จะเปียกปอน ก็จะยิ้มอย่างสดใสยิ่งกว่าเดิม"

 


ท้องฟ้าที่หลบซ่อนอยู่หลังหมู่เมฆ
มวลอากาศช่างหนักอึ้งเป็นพิเศษ
เสียงกระซิบว่าโลกทั้งใบกำลังจะถูกแต่งแต้มสีสัน
คงจะทำให้รู้สึกหดหู่ไปสักระยะ

จำได้ว่า ตอนที่ยังเป็นเด็ก
ฉันรอให้ฝนตกลงมา
สวมเสื้อผ้าโปร่งสบายและไม่ได้พกร่ม
แล้วออกไปข้างนอก

โยกตามเพลงที่ดังก้องอยู่ในหู
จนร่างกายเปียกโชกไปทั้งตัว
แสงอาทิตย์หักเหเป็นแสงสีเขียว
ฝนกำลังตกอยู่ไกลๆ

*ท้องฟ้าสีครามในวันนั้น
ถูกย้อมเป็นสีเขียวในตอนนี้
ฝากกายไปกับสายฝน
ณ ขณะนั้น
รักนะ รักนะ รักนะ

ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว
สองเท้าที่เปียกปอน
หลังออกวิ่งและล้มลงจนเปียกไปทั้งตัว
แม้จะเปียกปอน ก็จะยิ้มอย่างสดใสยิ่งกว่าเดิม

**ขณะฟังเสียงฝนที่ตกกระทบหน้าต่าง
หากคุณฟังและตอบกลับไป
เมื่อพ้นค่ำคืนที่มืดมิดนี้
แสงสว่างจะค่อย ๆ แผ่ขยายออกไป

***เสียงดังรบกวนตลอดทั้งวัน
โลกที่ถูกปิดกั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นมีสีสัน
ปล่อยใจตามเสียงฝนโดยหลับตาทั้งสองข้างลง
และเตรียมต้อนรับเช้าวันใหม่

*ท้องฟ้าสีครามในวันนั้น
ถูกย้อมเป็นสีเขียวในตอนนี้
ฝากกายไปกับสายฝน
ณ ขณะนี้
รักนะ รักนะ รักนะ

**ขณะฟังเสียงฝนที่ตกกระทบหน้าต่าง
หากคุณฟังและตอบกลับไป
เมื่อพ้นค่ำคืนที่มืดมิดนี้
แสงสว่างจะค่อย ๆ แผ่ขยายออกไป

จากเสียงฝีเท้าเล็ก ๆ
สู่เสียงอันดังก้อง
หวังว่าจะสามารถเดินต่อไปได้

*ท้องฟ้าสีครามในวันนั้น
ถูกย้อมเป็นสีเขียวในตอนนี้
ฝากกายไปกับสายฝน
ทุกช่วงเวลาของฉัน
รักนะ รักนะ รักนะ

**ขณะฟังเสียงฝนที่ตกกระทบหน้าต่าง
หากคุณฟังและตอบกลับไป
เมื่อพ้นค่ำคืนที่มืดมิดนี้
แสงสว่างจะค่อย ๆ แผ่ขยายออกไป

ฉันจะระลึกถึงช่วงเวลานี้ตลอดไป
แม้ว่าสักวันจะเปียกฝนอีก¹
เพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้าได้อีกครั้ง
รักนะ รักนะ รักคุณนะ

เมื่อแสงอาทิตย์ค่อย ๆ สาดส่อง
อีกไม่นานโลกทั้งใบจะสว่างไสว
ภายใต้การอาบย้อมด้วยแสงสีเขียว
แม้จะคุณเปียกปอน ก็จะยิ้มอย่างสดใสยิ่งกว่าเดิม

Oh จะยิ้มออกมาได้
เราจะยิ้มออกมาได้
 

NOTE

หลายคนจะรู้สึกเศร้าและหดหู่เมื่อฝนตก แต่เซจองเล่าว่ามีช่วงที่รู้สึกชอบเวลาที่ฝนตกเหมือนกัน เพลงนี้ทำให้เซจองนึกถึงช่วงเวลาที่ยังเป็นเด็ก เวลาวิ่งผ่านแอ่งน้ำขังที่พื้นก็ไม่ได้ร้องไห้เมื่อล้มลง แต่เป็นช่วงเวลาที่สนุกสนาน ถึงจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ผ่านไปแล้วและสักวันหนึ่งเราจะลืมเลือนมันไปก็ตาม เพลงนี้เซจองแต่งขึ้นให้มี vibe คล้ายกับเพลง Hopes for Tomorrow ในอัลบั้ม Plant

¹ "ฉันจะระลึกถึงช่วงเวลานี้ตลอดไป แม้ว่าสักวันจะเปียกฝนอีก เพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้าได้อีกครั้ง" หมายถึง แม้ชีวิตจะมีเรื่องล้มเหลว แต่เซจองและเซซังมีกันและกันแล้ว ในสักวันหนึ่งความสุขจะหวนกลับมา และต่อให้อนาคตจะมีฝนรูปแบบไหนตกลงมาในชีวิต ก็ไม่ต้องเสียใจอีกแล้ว เราจะยิ้มรับมันได้เสมอ 

ที่มา

แปลและเรียบเรียงคำแปลเพลง โดย CLOVERIE IRIS
ไม่อนุญาตให้คัดลอก ตัดทอน หรือนำเนื้อหาในบทความนี้ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

𝑪𝒍𝒐𝒗𝒆𝒓𝒊𝒆 𝑰𝒓𝒊𝒔 - Bio Site

𝑪𝒍𝒐𝒗𝒆𝒓𝒊𝒆 𝑰𝒓𝒊𝒔 · Support KIMSEJEONG , SINCE 2017 · Share your websites, products, social pages, and more, all in one link with Bio Sites from Unfold.

bio.site